ในปัจจุบัน การติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้งานในบ้าน สำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นพลังงานสะอาดที่สามารถใช้ได้โดยไม่มีวันหมดแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟให้กับผู้ที่ติดตั้งได้อีกด้วย แน่นอนว่าในยุคที่ค่าไฟสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านและธุรกิจหลาย ๆ แห่งเริ่มให้ความสนใจในการติดตั้งโซล่าเซลล์ไว้ใช้งานกันมากขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์มาใช้งานได้อย่างเหมาะสม ในบทความนี้ Ecotech จึงจะพาคุณมาทำความรู้จักกับประเภทของแผงโซล่าเซลล์ ว่ามีความแตกต่างกันยังไง มีอายุการใช้งานกี่ปี แล้วเลือกแผงโซล่าเซลล์แบบไหนไปใช้งานถึงจะคุ้มค่า ไปหาคำตอบในบทความนี้กันได้เลย
แผงโซล่าเซลล์คืออะไร?
แผงโซล่าเซลล์ หรือ Photovoltaics Cell (PV) คือ การนำโซลาเซลล์หลาย ๆ เซลล์มาต่อวงจรรวมกันจนเห็นเป็นแผงขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการรับพลังงานจากแสงอาทิตย์และนำมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมี Semiconductor หรือสารกึ่งตัวนำ ที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ได้นั้นจะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current – DC) แต่จะมีการนำไปแปลงไฟด้วยเครื่องแปลงไฟ หรือ Inverter ให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current – AC) เพื่อให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานในบ้านสามารถใช้งานไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซล่าเซลล์ได้
โดยแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน กว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะผลิตมาจากผลึกซิลิคอน (Crystalline Silicon) ที่มีความบริสุทธิ์ มีโมเลกุลเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ทำให้สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของแผงโซล่าเซลล์
แผงโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบันนี้ สามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ในการผลิตได้ทั้งหมด 3 ชนิด ดังนี้
1. โมโนคริสตัลไลน์ (Mono Crystalline Solar Cell)
แผงโซล่าเซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตมาจากผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว ที่มีความบริสุทธิ์สูงมีโมเลกุลเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ โดยจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมทั้งสี่มุม มีสีเข้ม และมีความหนาประมาณ 150-200 ไมครอน โดยชนิดนี้จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงที่สุดคือประมาณ 15-20% และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ แผงโซล่าเซลล์ชนิดนี้จะเป็นสีดำล้วน มีสีเข้ม ดูเท่และเรียบหรู ช่วยให้บ้านดูสวยงามมีสไตล์มากยิ่งขึ้น แต่จะมีราคาค่อนข้างสูง
2. โพลีคริสตัลไลน์ (Poly Crystalline Silicon Solar Cell)
แผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตจากผลึกซิลิคอนเช่นเดียวกับแผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ แต่จะมีลักษณะและขั้นตอนการผลิตที่แตกต่างกัน โดยจะมีลักษณะเป็นเซลล์รูปสี่เหลี่ยมต่อกันโดยไม่มีการตัดมุมบริเวณขอบของช่องสี่เหลี่ยม เกิดจากการนำซิลิคอนเหลวมาเทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมแล้วตัดให้เป็นแผ่นบาง ๆ ซึ่งแผงโซล่าเซลล์ประเภทนี้จะใช้ปริมาณซิลิคอนในการผลิตน้อยกว่า ทำให้แผงเป็นสีน้ำเงินเข้มแต่ไม่เข้มมาก นับว่าเป็นประเภทที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน มีความหนาประมาณ 150-200 ไมครอน สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่าแผงแบบโมโนคริสตัลไลน์อยู่ที่ประมาณ 12-15% และมีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี
3. แผงโซล่าเซลล์แบบแผ่นฟิล์มบาง หรืออะมอร์ฟัสโซลาเซลล์ (Thin Film Solar Cells or Amorphous Solar Cell)
เป็นแผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มที่มีความบางเบา มีราคาถูกที่สุด และมีอายุการใช้งานน้อยกว่าแผงโซล่าเซลล์ชนิดอื่น ๆ โดยจะเป็นการนำสารที่สามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาฉาบเป็นชั้นฟิล์มบาง ๆ ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้น และสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยได้เพียง 7-13% เท่านั้น
ระบบของโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน
โซล่าเซลล์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้ทั้งหมด 3 ระบบ ซึ่งแต่ละระบบนั้นมีกระบวนการผลิตและความเหมาะสมในการใช้งาน รวมถึงความเหมาะสมกับพื้นที่ติดตั้งที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ระบบ Off-Grid
เป็นระบบโซล่าเซลล์ที่ไม่เชื่อมต่อกับกระแสไฟฟ้า โดยไฟฟ้าที่ผลิตจากโซล่าเซลล์จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทันที และหากใช้ไม่หมดจะนำพลังงานไฟฟ้าที่เหลือไปเก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ นอกจากนี้การใช้งานโซล่าเซลล์ระบบ Off-Grid นั้นไม่ต้องมีการขออนุญาตจากการไฟฟ้า ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เช่น บนดอยสูง บนเกาะ พื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
2. ระบบ On Grid
เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเหมาะสำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย โดยจะเป็นระบบที่ใช้ทั้งไฟฟ้าทั่วไป และไฟฟ้าที่ผลิตจากโซล่าเซลล์ ซึ่งเมื่อผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาแล้วจะต้องนำไปใช้งานในทันที เพราะไม่สามารถเก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ได้ ที่สำคัญคือ จะต้องมีการขออนุญาตจากการไฟฟ้าก่อนใช้งาน
3. ระบบ Hybrid
เป็นระบบที่ผสมผสานระบบ Off-Grid และ On Grid ไว้ด้วยกัน ซึ่งระบบนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง และไม่สามารถขายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตแล้วไม่ได้ใช้งานให้กับภาครัฐได้ โดยจะมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าจาก 3 แหล่งคือ ทางโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่ และไฟฟ้าจากการไฟฟ้า เมื่อมีการใช้งานกระแสไฟฟ้าน้อยกว่าปริมาณที่ผลิตได้ ก็จะถูกนำไปเก็บสำรองไว้ที่แบตเตอรี่จนเต็ม และสามารถนำมาใช้งานในเวลาที่ไม่มีแสงแดดได้
4 เทคนิคในการเลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์ไปใช้งาน
จากข้อมูลด้านบนคงจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีแผงโซล่าเซลล์และระบบการทำงานให้เลือกหลากหลายประเภท ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่าหากต้องการเลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์ไปใช้งานนั้น ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
1. เลือกแผงโซลาเซลล์ให้เหมาะกับการใช้งาน
ในกรณีที่ต้องการเลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์ไปติดตั้งและใช้งานในบ้านพักอาศัย การเลือกแผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ และโพลีคริสตัลไลน์ไปใช้งาน นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก โดยแผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ จะมีขนาดที่เล็กกว่า เหมาะกับการติดตั้งบนหลังคาบ้านหรือบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด
แต่หากต้องการประหยัดงบประมาณก็สามารถเลือกแผงโซล่าเซลล์แบบโพลีคริสตัลไลน์ไปใช้งานแทนได้เช่นกัน เพราะแผงโซล่าเซลล์ทั้ง 2 ประเภท มีคุณภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
2. ความสวยงามและกลมกลืนกับอาคาร
หลังคาบ้านในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่ จะเป็นหลังคาทรงปั้นหยาที่มีมุมเอียง ทำให้สามารถมองเห็นแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาในระยะไกลได้อย่างชัดเจน ดังนั้น จึงควรเลือกแผงโซลาเซลล์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับทรงหลังคา มีสีเข้ม และดีไซน์เรียบหรู เพื่อให้กลมกลืนกับอาคารและดูสวยงาม
3. อย่าลืมเช็กความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต
เนื่องจากแผงโซลาเซลล์จะต้องมีการใช้งานและติดตั้งอยู่กับบ้านของเราเป็นเวลานาน ทำให้การเลือกผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ กลายเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นพิเศษ โดยควรจะพิจารณาจาก บริการและมาตรฐานในการติดตั้ง บริการหลังการขาย การรับประกัน รวมถึงการรับรองมาตรฐานของแผงโซล่าเซลล์
โดย Ecotech เป็นตัวแทนจำหน่ายแผงโซล่าเซลล์แบรนด์ AE Solar หนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่ง AE Solar นับว่าเป็นแบรนด์สินค้า Tier 1 จากประเทศเยอรมนี ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตและการตรวจสอบจากยุโรป มาพร้อมการรับประกันวัสดุอุปกรณ์นานถึง 15 ปี และรับประกันกำลังการผลิตนานถึง 30 ปี นอกจากนี้ Ecotech ยังเป็นผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์และการติดตั้งโซล่าเซลล์ครบวงจร ที่ให้บริการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 10 ปี 500 โครงการ ทำให้คุณสามารถมั่นใจในมาตรฐานการติดตั้งและคุณภาพของแผงโซล่าเซลล์ได้อย่างเต็มที่
4. กำลังวัตต์ของแผงโซล่าเซลล์
อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องรู้ก่อนซื้อแผงโซล่าเซลล์มาใช้งานก็คือ กำลังวัตต์ โดยแผงโซล่าเซลล์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 20-25 ปี จะมีให้เลือกตั้งแต่ 10-300 วัตต์ขึ้นไป ซึ่งประสิทธิภาพในการผลิตก็จะลดลงตามระยะเวลาที่ใช้งาน โดยควรจะเปรียบเทียบแผงโซล่าเซลล์จากราคาบาทต่อวัตต์ (Baht/W) อีกทั้งยังควรเลือกกำลังวัตต์ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน
สรุปบทความ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับแผงโซล่าเซลล์ที่ Ecotech รวบรวมมาแนะนำให้กับคนที่มีความสนใจหรือต้องการติดตั้งโซล่าเซลล์ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อแผงโซล่าเซลล์ไปใช้งานก็คือ มาตรฐานการผลิตและผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการมีบริการที่ครบครัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานและติดตั้ง
ซึ่งที่ Ecotech ก็ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ทำให้เราเลือกแผงโซล่าเซลล์คุณภาพสูงแบรนด์ AE Solar จากประเทศเยอรมนี ที่เป็นแบรนด์สินค้า Tier-1 มาจำหน่ายให้กับลูกค้า พร้อมกับการรับประกันสูงสุดถึง 30 ปี และบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจในประสิทธิภาพและการบริการที่ได้มาตรฐานกับ Ecotech ได้เป็นอย่างดี