ด้วยอัตราค่าไฟที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย ทำให้ในปัจจุบันเราสามารถเห็นบ้านพักอาศัยหลาย ๆ หลัง เริ่มหันมาติดตั้งโซล่าเซลล์ไว้บริเวณหลังคาบ้านกันมากขึ้น เนื่องจากการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ หรือ Solar Rooftop จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้งานในบ้าน และลดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟในแต่ละเดือนได้
แต่ก่อนจะตัดสินใจติดตั้งโซล่าเซลล์ ก็มีเรื่องที่จำเป็นจะต้องรู้ เพื่อให้โซล่าเซลล์ที่ติดตั้งมีความแข็งแรง และสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นในบทความนี้ Ecotech จะมาแนะนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการติดตั้งโซล่าเซลล์ ใครวางแผนจะติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ หรือ Solar Rooftop อยู่ต้องห้ามพลาด!
5 เรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop)
เพื่อให้คุณสามารถติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) ได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดปัญหาในภายหลังจนทำให้งบบานปลาย Ecotech ได้รวม 5 เรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้ง Solar Rooftop มาให้แล้ว จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!
1. สำรวจความพร้อมของสถานที่ก่อนติดตั้งโซล่าเซลล์
การสำรวจความพร้อมของสถานที่ จะทำให้คุณทราบได้ว่า บ้านของคุณมีความพร้อมในการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์หรือไม่ โดยสิ่งที่ต้องตรวจสอบในเบื้องต้นมีดังนี้
- ตรวจสอบกำลังไฟภายในบ้าน
การตรวจสอบกำลังไฟภายในบ้านด้วยการคำนวณจากค่าไฟที่ชำระในแต่ละเดือน จะทำให้คุณทราบได้ว่า ในแต่ละเดือนคุณใช้กำลังไฟอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วควรเลือกติดตั้งโซล่าเซลล์ขนาดใดจึงจะเหมาะสม
- ตรวจสอบความแข็งแรงของหลังคาบ้าน
โดยปกติแล้ว มาตรฐานของแผ่นโซล่าเซลล์จะอยู่ที่ 1×2 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 22 กิโลกรัม ดังนั้นจึงควรตรวจสอบความแข็งแรงของหลังคาบ้าน และวัสดุที่ใช้ปูหลังคา หากมีรอยร้าว รอยแตก รอยรั่ว หรือตรวจสอบแล้วพบว่าไม่แข็งแรง ก็ควรจะทำการซ่อมแซมหรือรีโนเวทใหม่
- สำรวจรูปทรงของหลังคาบ้าน
แม้ว่าโซล่าเซลล์จะสามารถติดตั้งกับหลังคาได้ทุกประเภท ซึ่งบางประเภทก็จะสามารถติดตั้งได้ง่ายกว่าประเภทอื่น ๆ แต่บางประเภทก็อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการระบายน้ำ เช่น หลังคาทรงจั่ว เป็นทรงที่สามารถระบายความร้อนได้ดี และสามารถติดตั้งโซล่าเซลล์ได้ง่ายที่สุด, หลังคาทรงปั้นหยา เป็นทรงที่สามารถปะทะลมและกันแดดได้ดี ทำให้สามารถติดตั้งโซล่าเซลล์ได้ทุกทิศของหลังคา, หลังคาทรงเพิงแหงน สามารถติดตั้งได้ง่ายเช่นเดียวกับทรงจั่ว แต่จะต้องระวังในเรื่องของการรั่วซึม
2. ทำความรู้จักประเภทของโซล่าเซลล์
แผงโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้ในประเทศไทย จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- โมโนคริสตัลไลน์ (Mono Crystalline Solar Cell) มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุม และมีสีเข้ม โดยจะมีความหนาประมาณ 150-200 ไมครอน และสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณ 15-20%
- โพลีคริสตัลไลน์ (Poly Crystalline Silicon Solar Cell) เป็นประเภทที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน โดยจะมีความหนาประมาณ 150-200 ไมครอน สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 12-15%
- แผ่นฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cells) เป็นแผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มบาง มีราคาถูกที่สุด และมีอายุการใช้งานน้อยกว่าประเภทอื่น โดยจะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยได้เพียง 7-13% เท่านั้น
3. เลือกผู้ให้บริการรับติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ได้มาตรฐาน
- กำหนดงบประมาณในการติดตั้ง เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในการเลือกผู้ให้บริการในการติดตั้งโซล่าเซลล์ ซึ่งในปัจจุบัน ราคาติดตั้งโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการติดตั้ง ชนิดของแผ่นโซล่าเซลล์ และจำนวนแผ่นที่ติดตั้ง นอกจากนี้แต่ละบริษัทก็จะมีการให้บริการและราคาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบราคา ข้อดี-ข้อเสีย และการให้บริการอื่น ๆ เพิ่ม
- บริการหลังการขายและการรับประกัน ควรศึกษาการให้บริการหลังการขายและการรับประกันให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาหากแผงโซล่าเซลล์เกิดปัญหาขึ้นหลังจากการติดตั้ง ซึ่ง Ecotech ก็มีการรับประประสิทธิภาพการผลิตยาวนานถึง 30 ปี และรับประกันวัสดุอุปกรณ์สูงสุด 15 ปี
4. ทำเรื่องขอติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
หลังจากเตรียมความพร้อมของสถานที่ และเลือกผู้ให้บริการเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำเรื่องขอติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน โดยรายละเอียดการขออนุญาตก่อสร้างจะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้ง แต่ผู้ให้บริการหลายแห่งจะรับเป็นตัวแทนในการดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากได้มากพอสมควร
เช่นเดียวกับ Ecotech ที่ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์แบบครบวงจร โดยจะให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ขั้นตอนการขอสินเชื่อ และการขอใบอนุญาตตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการด้านเอกสารราชการ เพื่อให้ลูกค้าที่ไว้วางใจ Ecotech ได้รับความสะดวกสบายในขั้นตอนการติดตั้งอย่างเต็มที่
5. การดูแลแผงโซล่าเซลล์
หลังจากติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เรียบร้อยแล้ว ควรจะหมั่นดูแล และตรวจสภาพการใช้งานของแผงโซล่าเซลล์อยู่เสมอ เพราะหากแผงโซล่าเซลล์ไม่ได้รับการดูแล หรือซ่อมแซมเมื่อมีการชำรุด ก็จะส่งผลให้การทำงาน และประสิทธิภาพการรับแสงน้อยลง
แต่หากคุณเลือก Ecotech ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการดูแลแผงโซล่าเซลล์ด้วยตัวเอง เพราะ Ecotech มีระบบ Software ที่คอยตรวจสอบและติดตามผลการผลิต อีกทั้งยังมีการรับประกันหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ หาก Software พบว่ามีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นกับระบบการผลิต ระบบจะแจ้งเตือนปัญหาและส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ หรือแก้ไขภายใน 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนขอติดตั้ง Solar Rooftop หลังคาบ้าน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่า หลายคนคงพร้อมที่จะติดตั้ง Solar Rooftop หลังคาบ้านกันแล้ว แต่ก่อนที่จะติดตั้ง อย่าลืมไปขออนุญาตกับหน่วยงานภาครัฐให้เรียบร้อยก่อน จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
การยื่นขออนุญาตติดตั้ง Solar Rooftop จะขอได้ 2 กรณี ได้แก่
- ขอเพื่อใช้ในบ้าน หรืออาคารเพียงอย่างเดียว ในกรณีนี้ สามารถขอติดตั้ง Solar Rooftop ขนานกับระบบจ่ายไฟของการไฟฟ้า เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ภายในบ้านได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อกำหนดอะไรเป็นพิเศษ
- ขอเพื่อใช้ในบ้านและอาคาร และขายส่วนที่เหลือให้การไฟฟ้า ในกรณีนี้ จะต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 ตามประกาศของการไฟฟ้า โดยจะสามารถขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือให้กับการไฟฟ้าในอัตรารับซื้อ 2.20 บาท/หน่วย และมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี
ส่วนหน่วยงานที่ต้องขออนุญาต มีดังนี้
- ที่ทำการท้องถิ่น (เขต) เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและประเมินพื้นที่ติดตั้งว่ามีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ หรือเข้าข่ายดัดแปลงอาคารจนผิดกฎหมายหรือเปล่า
- คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หากคุณติดตั้ง Solar Rooftop ที่มีขนาดกำลังผลิตติดตั้ง (kWp) ต่ำกว่า 1000 kVA จะต้องยื่นแบบแจ้งการประกอบกิจการพลังงานด้วย
- การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าภูมิภาค สำหรับผู้ที่ติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านพักอาศัย สามารถยื่นเรื่องขอขนานไฟฟ้าติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบออนไลน์ได้เลย
สำหรับใครที่อ่านดูแล้ว รู้สึกยุ่งยาก ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย เพราะการใช้บริการรับติดตั้งโซล่าเซลล์อัจฉริยะจาก Ecotech จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแลให้ตั้งแต่ก่อนติดตั้ง ติดตั้ง และหลังติดตั้ง แบบครบวงจร ช่วยให้การติดตั้ง Solar Rooftop สะดวก คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดตั้งโซล่าเซลล์
ติดตั้งโซล่าเซลล์ หรือ Solar Rooftop ช่วยลดค่าไฟได้จริงไหม?
การติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ สามารถช่วยลดค่าไฟได้จริง โดยการประหยัดจะเกิดจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากสายส่งของการไฟฟ้าน้อยลง หากมีการใช้ไฟฟ้าเท่ากับหรือมากกว่าที่ระบบสามารถผลิตได้ ก็จะสามารถประหยัดได้สูงสุดถึงประมาณ 5 แสนบาทต่อ 1,000 kWp
ติดโซล่าเซลล์คุ้มไหม? กี่ปีถึงจะคืนทุน?
โดยเฉลี่ยแล้วจะคืนทุนภายใน 3-5 ปี เพื่อให้ผู้ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ได้กำไรคืนมาจากการประหยัดค่าไฟในปีที่ 6 อย่างน้อย 2 เท่าจากเงินลงทุน
ติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องขออนุญาตไหม?
การติดตั้งโซล่าเซลล์ จะต้องขออนุญาตจากการไฟฟ้านครหลวง (PEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พร้อมยื่นเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ติดโซล่าเซลล์ทิศไหนดีที่สุด?
ควรติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้หันไปทางทิศใต้ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดเข้มข้นมากที่สุด โดยการติดตั้งควรทำองศาหรือเอียงแผงประมาณ 13.5 องศา เพื่อให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น
ขายไฟคืนทำได้ไหม คุ้มหรือเปล่า?
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า เราสามารถขอยื่นติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ในบ้านและอาคาร และขายส่วนที่เหลือให้การไฟฟ้าได้ แต่จะคุ้มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการติดตั้งโซล่าเซลล์ของแต่ละคน
หากคุณติดตั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าภายในบ้าน การขายไฟคืนก็จะช่วยคืนต้นทุนติดตั้งโซล่าเซลล์ได้เร็ว และคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน แต่ถ้าติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อเน้นขายไฟคืนแบบเอากำไร ก็อาจจะไม่คุ้มค่าได้ เพราะคุณจะขายไฟคืนได้แค่ 2.20 บาท/หน่วย ภายในระยะเวลา 10 ปีเท่านั้นเอง
สรุปบทความ
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการติดตั้ง Solar Rooftop หรือโซล่าเซลล์บ้าน สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะติดตั้งโซล่าเซลล์ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้เลย นอกจากนี้หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการรับติดตั้งโซล่าเซลล์ Ecotech ก็พร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่ เพราะเราเป็นตัวแทนจำหน่ายโซล่าเซลล์แบรนด์ AE Solar จากประเทศเยอรมนีอย่างเป็นทางการ พร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง และการบริการหลังการขาย รวมถึงการรับประกันที่ได้มาตรฐาน